7 สิ่งที่ต้องตรวจเช็ครถยนต์ของคุณ ในช่วงที่ฝนตกหนักแบบนี้!
เอาจริงๆ ก็ยังไม่ถึงช่วงเข้าพรรษาเลยแฮะ มีใครรู้สึกเหมือนจิ๊บมั้ยว่าหน้าฝนขยับเข้ามาเร็วขึ้นทุกปีเลย ช่วงนี้ฝนก็ตกได้ตกดี ทุกวี่ทุกวันเลย โดยเฉพาะเวลาใกล้เลิกงานนะ หื้มๆๆ มืดครื้มมาแต่ไกลเลยจ้า คนใช้รถใช้ถนนแบบเราก็จะลำบากนิดนึง ถ้าช่วงไหนที่ฝนตกมากเราก็จะขับรถลำบากกันสุดๆ เพราะมองไม่เห็นทางเล้ยยยย เราจึงสังเกตได้ว่าอุบัติเหตุจะเกิดขึ้นในช่วงหน้าฝนบ่อยกว่าปกติ ก็ความเสี่ยงมันมากกว่านี่เนาะ
อุปกรณ์รถยนต์ที่ต้องเช็ค เตรียมพร้อมรับฝนตก
1. ลมกับยางรถยนต์
ไม่สามารถที่จะปฏิเสธได้ว่ายางรถยนต์ และก็การเติมลมยางจะมีผลต่อการขับขี่ในตอนที่ฝนตกหนัก หรือบนถนนหนทางที่มีน้ำขัง การเติมลมยางรถยนต์จำเป็นต้องไม่แข็ง ไม่อ่อนจนเกินไป จะต้องมีจำนวนที่สมควร เพราะว่าลมยางจะมีผลต่อการยึดถนนหนทางด้วย ส่วนภาวะของดอกยางรอบๆล้อ ดอกยางจะต้องไม่ลึกจนเกินไป เพราะเหตุว่าจะมีผลให้การรีดน้ำออกมาจากถนนหนทาง ห่วยกว่าดอกยางที่มีความลึกสมควร
2. ระบบเบรครถยนต์
เรื่องระบบเบรคนี่นับว่าเป็นสิ่งที่จำเป็นมากมายกกก เพื่อนฝูงๆควรจะตรวจเช็คเป็นพิเศษเลยล่ะ โดยมองจากผ้าเบรคในช่วงเวลาที่พวกเราเบรครถยนต์ ว่าผ้าเบรคสึกเกินไปหรือป่าว ให้พิจารณาตอนเบรครถยนต์…ว่าเวลาเหยียบเบรคพวกเรามีความรู้สึกว่าเท้ากดเบรคลึกเกินธรรมดาไปหรือเปล่า รวมทั้งตอนเหยียบเบรค รถยนต์ล้อหน้ามีลักษณะฝืด หรือมีลักษณะอาการดึงล้อหน้าไปทางซ้ายหรือทางด้านขวาไหม ถ้าเจออาการแตกต่างจากปกติดังกล่าวข้างต้น ให้รีบนำรถยนต์ไปเข้าซ่อมแซมอย่างด่วนมาก
3. สายไฟในรถยนต์
ควรจะตรวจเช็คสายไฟในรวมทั้งนอกรถยนต์ว่ามีรอยเสีย ฉีกจนขาดไหม ถ้าหากเจอให้รีบดำเนินงานซ่อมบำรุงอย่างฉับพลัน ในตอนที่ฝนตกทุกวี่วันแบบงี้แม้น้ำฝนซึมเข้ารถยนต์แล้วไปโดนสายไฟที่ทรุดโทรม อาจจะเป็นผลให้กำเนิดไฟช็อตได้อย่างไม่ยากเย็นอันตรายถึงชีวิตเลยนะ
4. ที่ปัดน้ำฝนหน้ารถ
ที่ปัดน้ำฝนเป็นเครื่องมือที่สำคัญอีกด้วยเหมือนกัน เนื่องจากว่าช่วยทำให้พวกเราเห็นทางด้านหน้าเมื่อเกิดฝนตกหนัก แนวทางตรวจสอบสภาพที่ปัดหน้าฝนที่เหมาะสมที่สุด คือเช็คตอนใช้งานจริง หมั่นพิจารณาที่ปัดน้ำฝนให้ดีว่ามีเสียงดังไหม หากมีเสียงดังขณะใช้งานแปลว่ายางที่ปัดน้ำฝนเริ่มสลายตัวแล้ว หรือไม่ก็ฝืดเพราะว่าเสียดสีกับน้ำยาที่เคลือบกระจกไว้ แล้วก็จำต้องมองให้ดีว่าในตอนที่ใบปัดน้ำฝนทำงานกระจกเป็นรอยหรือเปล่า ถ้าเกิดเจอรอยที่กระจก ให้รีบเปลี่ยนที่ปัดน้ำฝนอันใหม่เลย UFABET
5. น้ำยาฉีดกระจกหน้ารถยนต์
หลังจากที่ฝนหยุดต้องก็จะทิ้งคราบต่างๆ เอาไว้มากมาย น้ำยาฉีดกระจกจะช่วยทำให้กระจกหน้ารถยนต์ของเราที่มีฝุ่น หรือคราบต่างๆ เกาะหน้ารถสลายหายวับไป ทำให้กระจกหน้ารถใสปิ๊งๆ มองเห็นทะลุปรุโปร่งสุดๆ วิธีดูแลก็คือการหมั่นเช็คระดับของน้ำยาที่ฝากระโปรงหน้ารถ คอยดูไม่ให้น้ำยาหมด และต้องอยู่ในระดับที่เหมาะสม
6. ตรวจสอบสัญญาณไฟที่จำเป็น
หมั่นตรวจทานสัญญาณไฟต่างๆรอบรถยนต์ ว่ามีแสงไฟที่พอเพียงต่อการขับขี่หรือเปล่า ยกตัวอย่างเช่น ไฟเลี้ยว ไฟเบรค ไฟต่ำ ไฟสูง ถ้ามีแสงไฟไม่พอ หรือมีการพัง จิ๊บชี้แนะว่าให้รีบนำรถยนต์ไปซ่อมแซมจะเยี่ยมที่สุด เพราะเหตุว่าแม้ขับไปในตอนที่ฝนตก หรือยามค่ำคืน อาจจะก่อให้พวกเราส่งสัญญาณไฟต่างๆมิได้ จนกระทั่งบางทีอาจเป็นเหตุให้เกิดอุบัติเหตุได้ UFABET
7. เช็คน้ำมันเครื่อง น้ำมันเกียร์
ควรเช็คน้ำมันเครื่อง และน้ำมันเกียร์ให้ดี ว่ามีส่วนผสมของน้ำฝนลงไปผสมเจือปนหรือไม่ เพราะถ้าหากมีน้ำลงไปในน้ำมัน อาจทำให้มีการรั่วซึมเกิดขึ้นได้ จนทำให้รถยนต์เกิดความเสียหาย ถ้าเพื่อนๆ พบว่ามีการรั่วซึมเกิดขึ้นให้นำรถไปเข้าเช็คที่ศูนย์ หรืออู่บริการได้เลย
ในช่วงที่ฝนตกหนักแบบนี้สิ่งที่ผู้ขับรถควรมีก็คือการขับรถด้วยความเร็วที่เหมาะสม และต้องไม่ประมาท เพราะการที่ฝนตกก็ถือเป็นความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุแล้ว ถ้าบริเวณที่ขับรถผ่านแล้วมีน้ำท่วมขังสูงจิ๊บแนะนำว่าไม่ควรขับรถลุยน้ำเข้าไปนะ เพราะจะทำให้รถยนต์เกิดความเสียหายได้ การตรวจเช็คอุปกรณ์ในรถยนต์ให้พร้อมใช้งานอยู่เสมอก็ถือว่าเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ถ้าหากอุปกรณ์ที่สำคัญชำรุด หรือเสียหายก็อาจจะส่งผลต่อการขับขี่ได้ ตามไปดูกันเลยดีกว่า…ว่ามีอุปกรณ์ชิ้นไหนในรถยนต์ที่ต้องตรวจเช็คเป็นพิเศษ เพื่อพร้อมรับมือในช่วงที่ฝนตกหนักแบบนี้! UFABET
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น